“หุ่นผอมๆแบบนี้ก็ดีแล้วหนิ”
กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเลยช้าก่อน หยุดคิดเลย!
หุ่นผอมไม่ได้ดีเสมอไปนะทุกคน มันมีปัญหาเยอะแยะมากมาย
แล้วยิ่งเป็นคนที่กินเท่าไหร่แล้วน้ำหนักก็ไม่ขึ้นเลย
แถมน้ำหนักก็ลดลงแบบเราอีก
คำว่า “กินจนเหนื่อย” มันมีอยู่จริงนะ
รักเป็นคนที่กินเยอะมากๆ ไม่ว่าจะหมูกะทะ บุฟเฟต์ ขนมหวาน
กินจนเพื่อนๆ นึกถึงเมนูนี้ที่ไร
หน้าเราก็เสมือนลอยขึ้นมาในหัวเพื่อน ชอบชวนไปกินอยู่เป็นประจำเลย
เพราะดูเหมือนว่าเรากินคุ้ม กินแบบไม่พักผ่อน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว...ที่เรากินเยอะก็แค่อยากน้ำหนักขึ้น!
แต่ใส่อาหารไปมากแค่ไหนน้ำหนักมันก็ขึ้นยากมากๆ
เพราะเราเป็น Hyperthyroid
เรียกง่ายๆก็ไทรอยด์แบบผอม เจอหน้าหมอก็บอกขอให้น้ำหนักเพิ่ม
เหนื่อยมากกกกก
เราถึงอยากแชร์ประสบการณ์ชาเลนจ์เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่! ด้วยวิธีของเรากัน
น้ำหนักตอนนั้นอยู่ที่ 56 Kg. สูง 169 ซม. และค่า BMI 19.61 สัดส่วนคือเฉียดเส้นผอมไปนิดเดียว
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ของคนปกติก็จริงแต่ดูแล้วไม่มีกล้ามเนื้อเลยทุกคน เศร้าแปป
ทีนี้เราเคยไปปรึกษาใครหลายๆคน ส่วนมากบอกว่า “ถ้าอยากสร้างกล้ามเนื้อก็กินเยอะๆแล้วก็ค่อย Burn”
ส่วนเราจ้ามี Fat แต่ไม่มีน้ำหนักเพิ่มเพราะ “กินแล้วไม่อ้วน” สักนิด
---------------------------------
ถ้าคนที่กินแล้วไม่อ้วน น้ำหนักก็ไม่ได้เพิ่ม แต่อยากที่จะมีกล้ามเนื้อ เราจะแค่กินเยอะแล้วก็ออกกำลังไม่ได้
เราต้องกิน Something ที่มีโปรตีนเยอะๆ ร่างกายของเราถึงจะเพิ่มกล้ามเนื้อได้
พอรู้แล้วว่าเราจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ได้ยังไง แต่ก็รู้ไม่สุด ปัญหาที่ตามมาคือ …. แล้วดิฉันจะกินอะไรเพื่อเพิ่มอีกล่ะคะคุณพรี่
Step ต่อมาคือไปนั่งหาว่าอาหาร หรือของอะไรบ้างที่มีโปรตีนเยอะๆ (ซึ่งมีเยอะมาก)
แต่อะไรดีล่ะที่เราจะเห็นผลเร็วที่สุด? ไม่หลายขั้นหลายตอนสำหรับคนแบบเรา (เพราะในใจก็ขี้เกียจ 555)
เลยหันมาทาง Whey เพราะน้องดูดซึมเร็ว เข้าร่างกายก็ใช้ได้ที่สำคัญเลยขั้นตอนไม่เยอะจุกจิก
เหมาะกับตุ๊ดตัวเล็กคนนี้ที่ ไม่ค่อยมีเวลาป่ะไปดูกันว่า เราจะทำชาเลนจ์นี้ได้หรือไม่ ลุยยย..
เราจะวิ่งครั้งละ 3-5 km. แล้วก็เดินต่ออีก 2km. ตอนแรกอาจจะเหนื่อยแต่เพื่อตัวเองสู้!!
แต่ช่วงแรกอัตราการวิ่งเฉลี่ยของเราจะไม่สูงมาก เราจะเน้นการเผาผลาญไขมันให้ได้เหงื่อเยอะๆ เพื่อที่จะได้ Burn มากขึ้น แต่การวิ่งก็มีข้อเสียอยู่นะจากที่รู้มา
พวกกระดูกและกล้ามเนื้อของเรา จะเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายมากเวลาไปวิ่ง
เราเลยต้องทำการเซฟตัวเองวอร์มก่อนวิ่ง และวิ่งเท่าที่ไหว
แต่ว่าพยายามวิ่งให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายของเราชิน วิ่งเอ๋วิ่งงงงง…..
ถ้าวันไหนที่เวลาน้อยหรือมีงานต่ออย่างน้อยขอให้ได้ไปออกกำลังกาย
ประมาณซัก 15-20 นาที เพื่อฝึกวินัยในตัวเอง ใครจะเอาแพลนตามเรา ไปทำตามก็ได้นะ ซิทอัพ 15 ครั้ง 4 ยก หรือจะเริ่มครั้งละน้อยๆก่อนก็ได้ พยายามทำให้หลังตรงที่สุด เพราะจะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
มาต่อกับยกเวท เอาที่เราไหวนะทุกคน แนะนำให้เริ่มจากเบาสุดก่อน ทิ้งไว้ข้างลำตัวปล่อยตามสบายและค่อยๆยกขึ้นมาไว้ให้ขนานหัวไหล่ แล้วยกขึ้นให้สุดสลับกัน แล้วเอาลงมาไว้ที่เดิม ทำแบบนี้ 10 ครั้ง 5 ยก
แล้วเราก็จะมาเริ่มวิ่งบนเครื่องวิ่งในระยะเวลาสั้นๆแต่เน้นความเร็ว เพราะต้องการให้หัวใจทำงานหนักในเวลาสั้นๆจะ Burn ได้เร็วพอๆกับวิ่งนานๆ แต่เหนื่อยมากกกกก…. (เอาเท่าที่ไหวนะ ทุกคนเดี๋ยวกล้ามเนื้อฉีก)
ใครจะดื่มน้ำหรือ Whey เพื่อเพิ่มความเฟรชก็ได้ แต่แค่จิบๆนะ (เดี๋ยวจะจุก55+)
ตัวเราเองจะเดิมเวย์เพราะต้องการเพิ่มน้ำหนักและเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ
จะได้เป็นการ Save ตัวเองไปด้วยสรุปง่ายเลยถ้าใครไม่มีเวลาแบบเรา
“ให้ออกกำลังจายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ประมาณ 30นาทีขึ้นไป
แต่ถ้าช่วงแรก ๆ เอาเท่าที่ไหวก่อน เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อฉีก”
เมื่ออกกำลังกายเสร็จแล้วมาดูเรื่องการกินกันดีกว่า
พูดถึงลักษณะการกินอาหารของเรา ก็จะกินทุกอย่างปกติ แต่ลดของมันลงมาบ้าง อะมีหลักฐาน นี่คือภาพถ่ายอาหารที่เรากินมา เราจะกินประมาณนี้ทุกคน
หลากหลายมากแต่เดือนนี้ไม่มีปุฟเฟต์เลย เราลองกินแบบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร
ถ้าเราอยู่กับที่บ้าน จะกินคลีนบ้าง ที่บ้านมาทานด้วยเลยเหงา ก็เลยลองสลับสับเปลี่ยนเมนูไป
เราก็ทำอยู่แบบนี้ประมาณ 1 เดือน จริงๆก็ไม่ถึง 30 วัน
เราเริ่มวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ส่วนวันนี้ที่เขียนบทความก็ 1 มีนาคม
เฉลี่ยประมาณ 25 วันได้หลักจากที่น้ำหนักจาก 56 ขึ้นมาเป็น 61.5 kg.
คือชั่งน้ำหนักปุ๊ป ฮรืออดีใจกรี๊ดสุดเพราะทำมาหลายวิธีแล้วชาเลนจ์นี้เวิร์คสุด
ถ้าใครเป็นประเภททานไม่อ้วน น้ำหนักไม่เพิ่มจะเข้าใจว่า แค่ตอนนี้น้ำหนักขึ้นเราก็ดีใจแล้ว ><
แถมเราได้กล้ามเนื้อเพิ่มมาด้วย งือชอบๆ
ตัวเวย์ก็ละลายง่ายมาก เราเขย่าแค่ 10 ครั้งก็ละลายแล้ว
คุณภาพดีนะเป็นเวย์นำเข้าจาก USA ได้มาตรฐานและส่งตรวจกับแลปที่ได้มาตรฐานระดับสากล ALS
เค้ายังตรวจผล Full amino breakdowns ได้มาตรฐานแน่นอน
ชื่อเจ้เพราะไปส่องมาแล้วค่ะ!!
ในเซทก็จะมี L-CarnitineX500 ให้ด้วย
ตัวนี้เค้าจะยึดน้ำหนักอยู่ที่ 170 LBS. หรือง่ายๆ 77kg.
เราก็จะใช้วิธีการทานตามตาราง ตอนแรกที่สั่งก็งง เอ๊ะเราอยากเพิ่มน้ำหนัก
แต่กิน L-Carnitine ที่ช่วยระบบเผาผลาญ
ที่จะลดไขมัน เพิ่มการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีมากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ดึงมวลกล้ามเนื้อเราออกไป
แถมน้องจะช่วยร่างกายดึงไขมันของเราอีก
แบบนี้มันจะน้ำหนักไม่ลดหรอ แต่เปล่าเลย เพราะทานคู่ตามวิธีทานที่ให้
เหมือนเป็นการปรับสมดุลร่างกาย กับกล้ามเนื้อของเราให้คงที่
เอ้อออ แบบนี้เริ่ดไหมละที่สุดเลยแหละคุณ
พอได้เวย์มาแล้วตัวเราเองเลยมาตั้งชาเลนจ์กับตัวเอง “อยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่! จะเพิ่มน้ำหนักให้ถึง 60 ให้ได้ภายใน 1 เดือน” ให้ได้ ถือว่าท้าทายศักยภาพคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายอย่างเรามาก แต่สู้ฮะ เพื่อร่างกายที่ดีมีสมดุล!!
ลองไปตำดูได้นะสั่งได้ที่ในช่องทาง https://www.fitwhey.com/ App: FITWHEY APP โหลดได้ทั้ง IOS และ Android Facebook: FITWHEY อาหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน FITWHEY GYM ทั้ง 2 สาขา - สาขาลาดพร้าว - สาขาSHOWDC
----------------------
ก่อนไปอยากบอกทุกคนที่ติดตามว่า “ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา...รักเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้ก็เป็นปลื้มมากๆ ท้าทายตัวเอง กับน้ำหนักที่ขึ้นมาได้แบบเราไม่ล้า ใช้ชีวิตสบายๆ อยากบอกทุกคนว่าสู้ๆ และเราเชื่อเสมอว่าทุกคนทำได้ “
You can do it!
0 ความคิดเห็น